5 วิธีสุดฮิต ที่จะช่วยให้เงินทำงานแทนคุณ

23 January 2025 85

สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีการเก็บเงินในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้เงินทำงานแทนเรา
มีวิธีง่ายๆและได้ผลจริง ดังต่อไปนี้

วิธีที่1 ออมเงินในธนาคารเพื่อรับดอกเบี้ย

เป็นวิธีที่เบสิคและคลาสสิคสุดๆ ที่คนทั่วไปทํากัน ก็คือนําเงินที่ได้มานั้นไปฝาก 
หรือออมไว้กับธนาคาร แล้วก็รับดอกเบี้ยตามเรทอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก
ที่แต่ละธนาคารกำหนดไว้ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารส่วนใหญ่แล้วก็จะ
ไม่ได้สูงมากนักหากเปรียบเทียบกับการนําเงินไปลงทุนประเภทอื่นๆ แต่วิธีนี้ง่าย
และก็มีสภาพคล่องค่อนข้างสูง จึงทําให้เกิดความสะดวกสบายหลายๆอย่าง ทั้งในเรื่องของการเบิกจ่ายที่คล่องตัวและรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการทําธุรกรรมผ่านสาขาของธนาคาร หรือหน้าตู้เอทีเอ็ม หรือเป็นการทำรายการผ่านโทรศัพท์มือถือ (Mobile Banking) หรืออาจจะสแกนจ่ายก็ได้ ซึ่งระยะเวลาในการทำธุรกรรมแต่ละครั้งจะใช้ระยะเวลาไม่นาน
โดยการออมเงินด้วยวิธีนี้จึงจะเหมาะกับการเก็บหรือออมเงินเพื่อใช้จ่ายในระยะสั้นๆ
หรือเก็บเป็นเงินสํารองฉุกเฉินเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ในเมื่อการเบิกถอนหรือเบิกจ่ายเงินสามารถทำได้โดยง่ายแล้วนั้น 
 สิ่งที่ต้องระวังคือเรื่องวินัยทางการเงินของเราเอง เพราะหากเราไม่มีวินัยในการ
เก็บออมอยู่เสมอ เราก็จะนําเงินที่ฝากไว้ในธนาคารมาใช้จ่ายอย่างง่ายๆ เช่นเดียวกัน 
หากเป็นเช่นนั้นก็จะทําให้สุดท้ายแล้วเราก็มักจะออมเงินได้ไม่ถึงเป้าหมายที่เราได้ตั้งใจไว้

วิธีที่2 ออมทอง

การออมทอง ก็คือการซื้อทอง มาเก็บไว้โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะนำออกไปขายต่อ
ในอนาคต เพื่อรับผลตอบแทนจากราคาทองในตลาด ซึ่งการออมทองนั้น
ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากทองเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง
แต่มีความเสี่ยงต่ำในเรื่องของค่าเสื่อม โดยราคาทองนั้นจะสูงขึ้นเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไป และหากมีเหตุจําเป็นที่ต้องใช้เงิน เราก็สามารถนําทองที่เก็บออมไว้ไปขายคืน
หรือแลกเป็นเงินสดมาใช้สอยก่อนได้ อย่างไรก็ตามเนื่องจากทองเป็นสินทรัพย์
ที่มีมูลค่าสูง จึงต้องมีการรักษาให้อยู่ในที่ที่มีความปลอดภัยสูงและการออมทองนั้น
ต้องใช้เงินในการเริ่มออมในจํานวนที่สูงมากกว่าการออมเงินที่เราสามารถเริ่มต้นออมเท่าไหร่ก็ได้ จึงอาจทําให้เป็นข้อจํากัดเล็กน้อยสําหรับผู้ที่เริ่มต้นเก็บออม

วิธีที่3 ลงทุนในกองทุนรวม

วิธีนี้คือการนําเงินมาลงทุนในกองทุนรวม แล้วกองทุนรวมคืออะไร หลายคนคงสงสัย กองทุนรวมก็คือเครื่องมือในการลงทุนรูปแบบหนึ่งที่ผู้ลงทุนหลายคนนําเงินลงทุนมารวมกัน และมอบหมายให้มืออาชีพ ซึ่งก็คือบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม
นําเงินที่ได้จากการระดมทุนหรือเงินกองทุนนี้ ไปจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล โดยจัดให้มี
ผู้จัดการกองทุนเป็นคนเข้ามาช่วยบริหารจัดการเงินของกองทุน ตามนโยบายการลงทุนที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน ซึ่งข้อดีของการนําเงินมาลงทุนในกองทุนรวมคือสามารถกระจายการลงทุนได้ตามนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย โดยใช้เงินทุนจํานวนไม่มาก
อีกทั้งยังมีมืออาชีพที่เข้ามาช่วยบริหารเงินให้ด้วย อย่างไรก็ตามการลงทุนมีความเสี่ยง นโยบายการลงทุนที่แตกต่างกันก็ทําให้เกิดความเสี่ยงมากน้อยแตกต่างกัน
หรือความเสี่ยงนั้นอาจเกิดมาจากการผันผวนของอัตราดอกเบี้ย หรือการเปลี่ยนแปลงของภาวะตลาดโดยรวมก็เป็นได้ ดังนั้นผู้ลงทุนจึงควรต้องศึกษารายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตนเองก่อนที่จะนําเงินนั้นไปลงทุน

วิธีที่4 ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่สามารถต่อยอดเงินออมของเรา
ให้งอกเงยได้เช่นกัน โดยการลงทุนนี้อาจเป็นการลงทุนเพื่อขายหรือให้เช่าในทรัพย์สิน
จําพวกที่ดินเปล่า บ้านพร้อมที่ดิน คอนโดมิเนียม อพาร์ทเมนท์ ทาวน์เฮาส์ โดยผู้ลงทุนอาจได้รับผลตอบแทนในรูปแบบของค่าเช่าหรือกําไรจากส่วนต่างของค่าเช่าก็เป็นได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการลงทุนอสังหาริมทรัพย์นั้นๆเอง

วิธีที่5 ประกันชีวิต

เป็นการออมเงินในรูปแบบของประกันชีวิต ซึ่งหลายคนอาจจะเคยได้ยินคําว่า
ประกันสะสมทรัพย์ หรือประกันออมทรัพย์นั่นเอง ซึ่งการออมเงินในรูปแบบนี้เป็นการออมเงินผ่านกรมธรรม์ประกันชีวิต ซึ่งข้อดีของการออมเงินผ่านกรมธรรม์ประกันชีวิต นอกจากที่ผู้ออมหรือผู้เอาประกันภัยจะได้รับผลตอบแทนในรูปแบบของเงินคืน
ระหว่างสัญญาหรือเงินคืนในกรณีครบกําหนดสัญญาแล้ว ประกันชีวิตยังให้
ความคุ้มครองชีวิตกับผู้เอาประกันอีกด้วย ซึ่งหลายคนคงกังวลว่าสัญญาประกันชีวิตเป็นสัญญาระยะยาวเสมอไปหรือไม่ หรือจะต้องมีภาระในการชําระเบี้ยค่อนข้างยาวหรือไม่ ต้องขอให้ทุกคนทำความเข้าใจในเรื่องของระยะเวลาการชําระเบี้ยของประกันชีวิต
ว่าการจะชำระเบี้ยสั้นหรือยาวนั้นขึ้นอยู่กับแผนประกันที่เลือกซื้อ ผู้เอาประกันภัยเองสามารถที่จะเลือกระยะเวลาการชําระเบี้ยประกันภัยได้ ไม่ว่าจะเป็น การออมในช่วง
ระยะสั้นๆ ระยะกลางหรือระยะยาวทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการออมแต่ละคน
อีกทั้งการออมเงินในรูปแบบนี้นอกจากการให้ผลตอบแทนที่แน่นอนตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้หลายคนสนใจนั่นก็คือเบี้ยประกันที่จ่ายไป
ยังสามารถนํามาลดหย่อนภาษีตามเงื่อนไขของสรรพากรได้อีกด้วย

การเลือกว่าจะเอาเงินนั้นไปวางหรือไปออม หรืออาจจะนําไปลงทุนที่ใดก็แล้วแต่ เราก็ควรดูในเรื่องความเสี่ยงที่เรารับได้ รวมถึงวินัยในการออมของเราเองและดูถึงเป้าหมายทางการเงินของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร และเอามาปรับหรือมิกซ์แอนด์แมทช์
ให้เข้ากับตนเอง เพื่อให้การออมเงินของเรานั้นบรรลุถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก

ท่านสามารถรับชมเรื่องราวที่น่าสนใจ พร้อมแนวทางการวางแผนชีวิตในรายการ “วางแผนชีวิตแบบจอยจอย”